Subscribe:

ผู้ติดตาม

วันอาทิตย์ที่ 3 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

ชูวิทย์” เดินสายหาเสียงขอนแก่นตั้งโต๊ะรับร้องเรียนที่บึงแก่นนคร

ชูวิทย์” เดินสายหาเสียงขอนแก่นตั้งโต๊ะรับร้องเรียนที่บึงแก่นนคร

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 29 พฤษภาคม 2554 18:08 น.










นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ หัวหน้าพรรครักประเทศไทย เดินสายหาเสียงตั้งโต๊ะรับเรื่องร้องเรียนที่จ.ขอนแก่น




คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่ขึ้น





ศูนย์ข่าวขอนแก่น - “ชูวิทย์” ยังเดินสายหาเสียงที่จังหวัดขอนแก่น เริ่มต้นเดินสายพบปะนักช็อปที่ห้างเซ็นทรัล พลาซา ขอนแก่น พร้อมตั้งโต๊ะรับเรื่องร้องเรียนปัญหาที่ริมบึงแก่นนคร ขณะที่ประชาชนสนใจขอลายเซ็น และถ่ายรูปคึกคัก

วันนี้ (29 พ.ค.) นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ หัวหน้าพรรครักประเทศไทย พร้อมบุตรชาย และทีมงานประมาณ 20 คน เข้าสักการะศาลเจ้าพ่อหลักเมืองขอนแก่น จากนั้นได้เดินทางไปหาเสียงที่ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล พลาซา สาขาขอนแก่น เพื่อพบปะประชาชนที่เข้ามาเที่ยวในห้าง พร้อมกับแจกลายเซ็น ขอให้ชาวขอนแก่นช่วยสนับสนุนให้เป็น ส.ส.ฝ่ายค้าน ในสภา

หลังจากนั้น นายชูวิทย์ พร้อมคณะ ได้เดินทางต่อไปยังถนนคนเดินริมบึงแก่นนคร เทศบาลนครขอนแก่น โดยได้ตั้งโต๊ะรับเรื่องร้องเรียน มีประชาชนให้ความสนใจมาขอถ่ายรูป รับภาพแจกลายเซ็น พร้อมกับมาขอร้องเรียนเรียนกับนายชูวิทย์อีกด้วย

จากนั้น นายชูวิทย์ ได้ขึ้นรถปราศรัย ไปตามถนนต่างๆ ในเขตเทศบาลนครขอนแก่น ก่อนที่จะไปหาเสียงที่สวนสาธารณะบึงแก่นนคร กับพ่อค้าแม่ค้า ประชาชนชาวขอนแก่นที่มาออกกำลังกายและพักผ่อนที่บึงแก่นนคร พร้อมทั้งไปร่วมหาเสียงกับประชาชนที่กำลังเต้นแอโรบิกอีกด้วย

ทั้งนี้ ได้มีเด็กชายคนหนึ่งทราบชื่อเล่นว่า จีน อายุประมาณ 9 ขวบ เป็นคนกรุงเทพฯ ได้มาขอพบ นายชูวิทย์ พร้อมกับพูดคุยกับนายชูวิทย์ ถึงสาเหตุของการถูกเพื่อนในชั้นเรียนรังแกว่า จะช่วยแก้ปัญหาอย่างไร ซึ่งนายชูวิทย์ให้คำตอบกับเด็กชายจีนเป็นที่ถูกอกถูกใจ

ต่อมา นายชูวิทย์ ได้แถลงข่าวกับสื่อมวลชนกรณีที่มาขอลงสมัคร ส.ส.และขอเป็นฝ่ายค้านในสภาเท่านั้น ซึ่งนายชูวิทย์ ได้นำ ด.ช.จีน มาเป็นตัวอย่างของเด็กไทย ที่จะเติบโตเป็นกำลังสำคัญของประเทศชาติในอนาคต

“ขอให้ผู้ใหญ่ที่เป็นนักการเมือง เลิกทะเลาะกัน แม้ว่าจะอยู่ซ้าย อยู่ขวา ควรหาเหตุผลที่เป็นปัญหาขึ้นมาเจรจากันเพื่อความสงบสุขของบ้านเมือง แต่นักการเมืองปัจจุบันมีแต่เรื่องทะเลาะเบาะแว้ง แล้วมาปรองดอง พร้อมกับหาคนขึ้นมาเป็นนายกฯใหม่ แก้ไขปัญหาบ้านเมืองของเรา จึงสมควรนำความคิดความอ่านของ ด.ช.จีนคนนี้ มาใส่ความคิดของนักการเมือง ที่จะสามารถตัดสินปัญหาของเรื่องความขัดแย้งในบ้านเมืองได้” นายชูวิทย์ กล่าวในที่สุด

ชูวิทย์” เดินสายหาเสียงขอนแก่นตั้งโต๊ะรับร้องเรียนที่บึงแก่นนคร

ชูวิทย์” เดินสายหาเสียงขอนแก่นตั้งโต๊ะรับร้องเรียนที่บึงแก่นนคร

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 29 พฤษภาคม 2554 18:08 น.










นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ หัวหน้าพรรครักประเทศไทย เดินสายหาเสียงตั้งโต๊ะรับเรื่องร้องเรียนที่จ.ขอนแก่น




คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่ขึ้น





ศูนย์ข่าวขอนแก่น - “ชูวิทย์” ยังเดินสายหาเสียงที่จังหวัดขอนแก่น เริ่มต้นเดินสายพบปะนักช็อปที่ห้างเซ็นทรัล พลาซา ขอนแก่น พร้อมตั้งโต๊ะรับเรื่องร้องเรียนปัญหาที่ริมบึงแก่นนคร ขณะที่ประชาชนสนใจขอลายเซ็น และถ่ายรูปคึกคัก

วันนี้ (29 พ.ค.) นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ หัวหน้าพรรครักประเทศไทย พร้อมบุตรชาย และทีมงานประมาณ 20 คน เข้าสักการะศาลเจ้าพ่อหลักเมืองขอนแก่น จากนั้นได้เดินทางไปหาเสียงที่ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล พลาซา สาขาขอนแก่น เพื่อพบปะประชาชนที่เข้ามาเที่ยวในห้าง พร้อมกับแจกลายเซ็น ขอให้ชาวขอนแก่นช่วยสนับสนุนให้เป็น ส.ส.ฝ่ายค้าน ในสภา

หลังจากนั้น นายชูวิทย์ พร้อมคณะ ได้เดินทางต่อไปยังถนนคนเดินริมบึงแก่นนคร เทศบาลนครขอนแก่น โดยได้ตั้งโต๊ะรับเรื่องร้องเรียน มีประชาชนให้ความสนใจมาขอถ่ายรูป รับภาพแจกลายเซ็น พร้อมกับมาขอร้องเรียนเรียนกับนายชูวิทย์อีกด้วย

จากนั้น นายชูวิทย์ ได้ขึ้นรถปราศรัย ไปตามถนนต่างๆ ในเขตเทศบาลนครขอนแก่น ก่อนที่จะไปหาเสียงที่สวนสาธารณะบึงแก่นนคร กับพ่อค้าแม่ค้า ประชาชนชาวขอนแก่นที่มาออกกำลังกายและพักผ่อนที่บึงแก่นนคร พร้อมทั้งไปร่วมหาเสียงกับประชาชนที่กำลังเต้นแอโรบิกอีกด้วย

ทั้งนี้ ได้มีเด็กชายคนหนึ่งทราบชื่อเล่นว่า จีน อายุประมาณ 9 ขวบ เป็นคนกรุงเทพฯ ได้มาขอพบ นายชูวิทย์ พร้อมกับพูดคุยกับนายชูวิทย์ ถึงสาเหตุของการถูกเพื่อนในชั้นเรียนรังแกว่า จะช่วยแก้ปัญหาอย่างไร ซึ่งนายชูวิทย์ให้คำตอบกับเด็กชายจีนเป็นที่ถูกอกถูกใจ

ต่อมา นายชูวิทย์ ได้แถลงข่าวกับสื่อมวลชนกรณีที่มาขอลงสมัคร ส.ส.และขอเป็นฝ่ายค้านในสภาเท่านั้น ซึ่งนายชูวิทย์ ได้นำ ด.ช.จีน มาเป็นตัวอย่างของเด็กไทย ที่จะเติบโตเป็นกำลังสำคัญของประเทศชาติในอนาคต

“ขอให้ผู้ใหญ่ที่เป็นนักการเมือง เลิกทะเลาะกัน แม้ว่าจะอยู่ซ้าย อยู่ขวา ควรหาเหตุผลที่เป็นปัญหาขึ้นมาเจรจากันเพื่อความสงบสุขของบ้านเมือง แต่นักการเมืองปัจจุบันมีแต่เรื่องทะเลาะเบาะแว้ง แล้วมาปรองดอง พร้อมกับหาคนขึ้นมาเป็นนายกฯใหม่ แก้ไขปัญหาบ้านเมืองของเรา จึงสมควรนำความคิดความอ่านของ ด.ช.จีนคนนี้ มาใส่ความคิดของนักการเมือง ที่จะสามารถตัดสินปัญหาของเรื่องความขัดแย้งในบ้านเมืองได้” นายชูวิทย์ กล่าวในที่สุด

วันอังคารที่ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2554


Website counter


Website counter


Website counter


Website counter


Website counter


Website counter


Website counter


Website counter


Website counter


Website counter


Website counter

วันอาทิตย์ที่ 26 มิถุนายน พ.ศ. 2554

วันอังคารที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

ระบบอวัยวะ

ระบบอวัยวะ
ดูบทความหลักที่ ระบบอวัยวะ
กลุ่มของอวัยวะที่เกี่ยวข้องกันเรียกว่า ระบบอวัยวะ (organ system) อวัยวะในระบบเดียวกันอาจมีความสัมพันธ์ร่วมกันได้หลายทาง แต่มักจะมีลักษณะหน้าที่การทำงานเกี่ยวข้องกัน เช่น ระบบขับถ่ายประกอบด้วยอวัยวะหลายอย่างที่ทำหน้าที่ร่วมกันในการผลิต เก็บ และขับปัสสาวะออก
หน้าที่ของระบบอวัยวะมักจะมีหน้าที่ทับซ้อนกัน เช่น ไฮโปทาลามัส (hypothalamus) เป็นอวัยวะที่ทำหน้าที่ทั้งในระบบประสาท (nervous system) และระบบต่อมไร้ท่อ (endocrine system) ทำให้การศึกษาทั้งสองระบบมักจะทำร่วมกันเรียกว่า ระบบประสาทและต่อมไร้ท่อ (neuroendocrine system) เช่นเดียวกันกับ ระบบกล้ามเนื้อและกระดูก (musculoskeletal system) ซึ่งเป็นความเกี่ยวข้องกันระหว่างระบบกล้ามเนื้อ (muscular system) และ ระบบโครงกระดูก (skeletal system)

รายชื่อระบบอวัยวะหลักๆ ในร่างกายมนุษย์
ร่างกายมนุษย์ประกอบด้วยระบบหลักๆ 11 ระบบ

ระบบทางเดินอาหาร - การดูดซึมสารอาหาร และขับถ่ายกากอาหารออก
ระบบโครงกระดูก - เป็นโครงร่างของร่างกายและการเคลื่อนไหว ผลิตเม็ดเลือดขาวชนิดลิมโฟไซต์
ระบบกล้ามเนื้อ - เป็นโครงร่างของร่างกายและการเคลื่อนไหว สร้างความร้อน
ระบบประสาท - เป็นศูนย์รวมและประสาทการทำงานโดยสัญญาณทางไฟฟ้าเคมี
ระบบต่อมไร้ท่อ - เป็นศูนย์รวมและประสาทการทำงานโดยฮอร์โมน
ระบบไหลเวียนโลหิต - ขนส่งสารภายในร่างกาย
ระบบหายใจ - กำจัดคาร์บอนไดออกไซด์และดูดซึมแก๊สออกซิเจน
ระบบสืบพันธุ์ - ผลิตลูกหลานเพื่อดำรงเผ่าพันธุ์
ระบบปกคลุมร่างกาย - ปกคลุมร่างกายภายนอก
ระบบน้ำเหลือง - ควบคุมของเหลวในร่างกาย และทำหน้าที่เกี่ยวกับระบบภูมิคุ้มกัน
ระบบขับถ่ายปัสสาวะ - ขับถ่ายของเสีย และควบคุมสมดุลเกลือแร่





ฟรี Counter

วันอาทิตย์ที่ 29 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

แผนการจัดการเรียนรู้วิชาสุขศึกษา ม.3 ช่วงชั้นที่ 3

หน่วยการเรียนรู้ที่ 1 การเจริญเติบโตด้านร่างกาย จิตใจ อารมณ์ และสังคม จำนวน 2 คาบ
เรื่อง การเจริญเติบโตและพัฒนาการด้านร่างกาย จิตใจ อารมณ์ และสังคม
สาระการเรียนรู้ที่ 1 การเจริญเติบโตและพัฒนาการของมนุษย์
มาตรฐาน พ 1.1 เข้าใจธรรมชาติของการเจริญเติบโตและพัฒนาการของมนุษย์

ผลการเรียนรู้ที่คาดหวัง
1. นักเรียนเข้าใจถึงการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในตนเองที่เกิดจากต่อมไร้ท่อได้อย่างถูกต้อง
2. นักเรียนวางแผนเพื่อพัฒนาการเจริญเติบโตได้อย่างเหมาะสม

จุดประสงค์การเรียนรู้
1. นักเรียนบอกการเปลี่ยนแปลงของร่างกายได้ถูกต้อง
2. นักเรียนบอกการเปลี่ยนแปลงของจิตใจ อารมณ์ได้ถูกต้อง
3. นักเรียนบอกการเปลี่ยนแปลงของทางด้านสังคมได้ถูกต้อง
4. นักเรียนบอกการเปลี่ยนแปลงด้านสติปัญญาได้ถูกต้อง
5. นักเรียนเขียนแผนและกิจกรรมที่ช่วยพัฒนาการเจริญเติบโตของตนเองได้

เนื้อหาสาระ
1. การเปลี่ยนแปลงของร่างกาย
2. การเปลี่ยนแปลงของจิตใจ อารมณ์
3. การเปลี่ยนแปลงของทางด้านสังคม
4. การเปลี่ยนแปลงด้านสติปัญญา
5. การเขียนแผนและกิจกรรมที่ช่วยพัฒนาการเจริญเติบโตของตนเอง

กระบวนการเรียนการสอน
การเรียนรู้แบบนักเรียนมีส่วนร่วม



การจัดการเรียนรู้
1. ทดสอบก่อนเรียน
2. แบ่งนักเรียนออกเป็นกลุ่ม 4 กลุ่ม
3. ให้นักเรียนศึกษาจากแบบเรียนสรุปการเจริญเติบโตและพัฒนาการแต่ละด้าน
4. ให้นักเรียนส่งตัวแทนออกมานำเสนอ
5. ครูสรุปเพิ่มเติม
6. ครูอธิบายวิธีเขียนแผนและกิจกรรมที่ช่วยในการพัฒนาการเจริญเติบโตและพัฒนาการ

สื่อการเรียนรู้
1. ภาพการเจริญเติบโตของวัยต่างๆ
2. ตัวอย่างการเขียนแผนการพัฒนาการเจริญเติบโตและพัฒนาการ

การวัดและประเมินผลการเรียนรู้
1. ประเมินจากการนำเสนอหน้าห้อง
2. ตรวจผลการเขียนแผนการพัฒนาการเจริญเติบโตและพัฒนาการ
ฟรี Counter
ภาพประกอบจากอินเทอร์เน็ต
..... แผนการสอน
สุขศึกษา ม.3










แผนการจัดการเรียนรู้วิชาสุขศึกษา ม.3 ช่วงชั้นที่ 3

หน่วยการเรียนรู้ที่ 1 การเจริญเติบโตด้านร่างกาย จิตใจ อารมณ์ และสังคม จำนวน 2 คาบ
เรื่อง การเจริญเติบโตและพัฒนาการด้านร่างกาย จิตใจ อารมณ์ และสังคม
สาระการเรียนรู้ที่ 1 การเจริญเติบโตและพัฒนาการของมนุษย์
มาตรฐาน พ 1.1 เข้าใจธรรมชาติของการเจริญเติบโตและพัฒนาการของมนุษย์

ผลการเรียนรู้ที่คาดหวัง
1. นักเรียนเข้าใจถึงการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในตนเองที่เกิดจากต่อมไร้ท่อได้อย่างถูกต้อง
2. นักเรียนวางแผนเพื่อพัฒนาการเจริญเติบโตได้อย่างเหมาะสม

จุดประสงค์การเรียนรู้
1. นักเรียนบอกการเปลี่ยนแปลงของร่างกายได้ถูกต้อง
2. นักเรียนบอกการเปลี่ยนแปลงของจิตใจ อารมณ์ได้ถูกต้อง
3. นักเรียนบอกการเปลี่ยนแปลงของทางด้านสังคมได้ถูกต้อง
4. นักเรียนบอกการเปลี่ยนแปลงด้านสติปัญญาได้ถูกต้อง
5. นักเรียนเขียนแผนและกิจกรรมที่ช่วยพัฒนาการเจริญเติบโตของตนเองได้

เนื้อหาสาระ
1. การเปลี่ยนแปลงของร่างกาย
2. การเปลี่ยนแปลงของจิตใจ อารมณ์
3. การเปลี่ยนแปลงของทางด้านสังคม
4. การเปลี่ยนแปลงด้านสติปัญญา
5. การเขียนแผนและกิจกรรมที่ช่วยพัฒนาการเจริญเติบโตของตนเอง

กระบวนการเรียนการสอน
การเรียนรู้แบบนักเรียนมีส่วนร่วม



การจัดการเรียนรู้
1. ทดสอบก่อนเรียน
2. แบ่งนักเรียนออกเป็นกลุ่ม 4 กลุ่ม
3. ให้นักเรียนศึกษาจากแบบเรียนสรุปการเจริญเติบโตและพัฒนาการแต่ละด้าน
4. ให้นักเรียนส่งตัวแทนออกมานำเสนอ
5. ครูสรุปเพิ่มเติม
6. ครูอธิบายวิธีเขียนแผนและกิจกรรมที่ช่วยในการพัฒนาการเจริญเติบโตและพัฒนาการ

สื่อการเรียนรู้
1. ภาพการเจริญเติบโตของวัยต่างๆ
2. ตัวอย่างการเขียนแผนการพัฒนาการเจริญเติบโตและพัฒนาการ

การวัดและประเมินผลการเรียนรู้
1. ประเมินจากการนำเสนอหน้าห้อง
2. ตรวจผลการเขียนแผนการพัฒนาการเจริญเติบโตและพัฒนาการ



















แผนการจัดการเรียนรู้วิชาสุขศึกษา ม.3 ช่วงชั้นที่ 3

หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 ต่อมไร้ท่อที่เกี่ยวข้องกับการเจริญเติบโตและพัฒนาการ จำนวน 1 คาบ
เรื่อง ต่อมไร้ท่อที่เกี่ยวข้องกับการเจริญเติบโตและพัฒนาการ
สาระการเรียนรู้ที่ 1 การเจริญเติบโตและพัฒนาการของมนุษย์
มาตรฐาน พ 1.1 เข้าใจธรรมชาติของการเจริญเติบโตและพัฒนาการของมนุษย์

ผลการเรียนรู้ที่คาดหวัง
1. นักเรียนเข้าใจถึงการเปลี่ยนแปลงท่ีเกิดขึ้นในตนเองที่เกิดจากต่อมไร้ท่อได้อย่างถูกต้อง
2. นักเรียนวางแผนเพื่อพัฒนาการเจริญเติบโตได้อย่างเหมาะสม

จุดประสงค์การเรียนรู้
1. นักเรียนบอกชื่อต่อมไร้ท่อได้ครบถ้วน
2. นักเรียนบอกบอกชื่อฮอร์โมนจากต่อมไร้ท่อต่างๆ ได้
3. นักเรียนบอกผลจากฮอร์โมนต่างๆที่มีผลต่อการเจริญเติบโตและพัฒนาการด้านต่างๆ ได้

เนื้อหาสาระ
1. ชื่อต่อมไร้ท่อต่างๆ
2. ชื่อฮอร์โมนที่ผลิตจากต่อมไร้ท่อต่างๆ
3. การเปลี่ยนแปลงและพัฒนาการต่างๆ ทางร่างกายและจิตใจ อารมณ์ สังคม สติปัญญา

กระบวนการเรียนการสอน
การเรียนรู้แบบนักเรียนมีส่วนร่วม

การจัดการเรียนรู้
1. ทดสอบก่อนเรียน
2. ให้นักเรียนศึกษาต่อมไร้ท่อและฮอร์โมนต่างๆ จากแบบเรียน
3. ให้นักเรียนทำกิจกรรมที่ 1
4. แจกใบงานเขียนชื่อต่อมไร้ท่อ ชื่อฮอร์โมนที่ผลิต และผลของฮอร์โมน
5. ครูสรุปอธิบายเพิ่มเติม
สื่อการเรียนรู้
1. ใบงาน
2. กิจกรรมที่ 1

การวัดและประเมินผลการเรียนรู้
1. ตรวจใบงานที่นักเรียนเขียน
2. ทำแบบทดสอบประมาณ 10 ข้อ






การจัดกิจกรรมการเรียนรู้
ชั่วโมงที่ 1
1. นักเรียนแบ่งกลุ่มๆละ 5คน ให้วิเคราะห์ปัญหาของวัยรุ่นในเรื่องเพศ และปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้วัยรุ่นมีเพศสัมพันธุ์ ในเวลา 5 นาที ให้นักเรียนแต่ละกลุ่มเขียนปัญหาและปัจจัยเสี่ยงบนกระดาน
2. นักเรียนและครูช่วยกันสรุปปัญหาและปัจจัยเสี่ยงที่เกิดขึ้น
3. ให้นักเรียนทำกิจกรรมที่ 1 ในหนังสือ
4. ให้นักเรียนในแต่ละกลุ่มช่วยกันหาข่าวจากหนังสือพิมพ์เกี่ยวกับปัญหาทางเพศนำเสนอข้อมูลในชั่วโมงหน้า
ชั่วโมงที่ 2
5. ให้นักเรียนแต่ละกลุ่มนำเสนอผลงาน
6. ครูให้นักเรียนสำรวจความคิดเห็นของนักเรียนที่ตนเอง
7. ให้นักเรียนแต่ละกลุ่มเสนอผลการสำรวจ ปัญหา อุปสรรค และสรุปผล
8. ให้นักเรียนประเมินผลฐานการเรียน ครูสรุปความรู้
9. ให้นักเรียนทำแบบฝึกหัดในหนังสือชุดปฏิบัติจริง
สื่อการเรียนรู้
1. หนังสือแบบฝึกชุดปฏิบัติจริง สุขศึกษา ม.6
2. กระดาษโปสเตอร์
3. อุปกรณ์จัดป้ายนิเทศ

การวัดและประเมินผลการเรียนรู้
1. วัดและประเมินผลด้านองค์ความรู้ ในหนังสือ
2. วัดและประเมินผลด้านทักษะกระบวนการ ในการจัดทำวิจัย
3. วัดและประเมินผลด้านเจตคติ ในหนังสือ








แผนการจัดการเรียนรู้
รายวิชาสุขศึกษา รหัสวิชา พ43102 กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาพลศึกษา
โรงเรียนบึงโขงหลงวิทยาคม ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2551
หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 การสร้างเสริมสุขภาพ
เรื่อง การป้องกันโรค เวลา 2 ชั่วโมงสาระการเรียนรู้ที่ 4 มาตรฐานการเรียนรู้ที่ 4.1 มาตรฐานการเรียนรู้ช่วงชั้น ข้อที่ 1, 2
วันที่ … เดือน พ.ศ. 2550 ผู้สอน ธรรมรักษ์ พวงมาลัย
……………………………………………………………………………………………………….
ผลการเรียนรู้ที่คาดหวัง
1. สร้างแนวร่วมในการสร้างเสริมสุขภาพ และการป้องกันโรคของชุมชน
2. สร้างเสริมสุขภาพและการป้องกันโรคของตนเอง ครอบครัว และชุมชนด้วยแนวทาง และภูมิปัญญาที่เหมาะสม
3. มีส่วนร่วมในการป้องกันโรคที่มีสาเหตุจากพฤติกรรมธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
4. เห็นความสำคัญของการประเมินภาวะสุขภาพ และพฤติกรรมเสี่ยงของชุมชน

จุดประสงค์การเรียนรู้
1. อธิบายองค์ประกอบที่มีผลต่อพฤติกรรมสุขภาพได้
2. อธิบายการสร้างเสริมสุขภาพและการป้องกันโรคด้วยภูมิปัญญาไทยได้
3. ยกตัวอย่างและสาธิตภูมิปัญญาไทยในชุมชนของนักเรียนได้
4. จัดตั้งแนวร่วมในการสร้างเสริมสุขภาพและการป้องกันโรคของชุมชน

สาระการเรียนรู้
1. การสร้างเสริมสุขภาพ
2. องค์ประกอบที่มีผลต่อพฤติกรรมสุขภาพ
3. การสร้างแนวร่วมในการสร้างเสริมสุขภาพ และการป้องกันโรคด้วยแนวทางและภูมิปัญญาที่เหมาะสม





การจัดกิจกรรมการเรียนรู้
ชั่วโมงที่ 1
1. ให้นักเรียนแบ่งกลุ่มๆละ 6 คน ให้นักเรียนช่วยกันระดมสมองเกี่ยวกับการสร้างเสริมสุขภาพและการป้องกันโรคของตนเอง และครอบครัวใช้เวลาคิด 5 นาที นำเสนอข้อมูลหน้าชั้นกลุ่มละ 2 นาที ครูและนักเรียนช่วยกันสรุป
2. ให้นักเรียนในแต่ละกลุ่มศึกษาค้นคว้าเกี่ยวกับการสร้างเสริมสุขภาพและการป้องกันโรคด้วยภูมิปัญญาไทย สาธิตและนำเสนอข้อมูลหน้าชั้นในชั่วโมง
3. ให้นักเรียนแต่ละกลุ่มออกมาสาธิตและนำเสนอข้อมูลหน้าชั้นทีละกลุ่ม
4. ให้นักเรียนแต่ละกลุ่มวิจารณ์การนำข้อมูลของเพื่อนเพื่อนำไปปรับปรุงในโอกาศต่อไป
5 . ให้นักเรียนจัดกลุ่มเช่นเดิมช่วยกันคิดโครงงานในการสร้างแนวร่วมในการสร้างเสริมสุขภาพและการป้องกันโรคของชุมชน
6. ให้นักเรียนทำแบบฝึกหัดในหนังสือแบบฝึกชุดปฏิบัติจริง สุขศึกษา ม.6
ชั่วโมงที่ 2
7. ให้นักเรียนแต่ละกลุ่มออกมานำเสนอผลการทำโครงงาน
8. นักเรียนและครูช่วยกันเสนอแนะการปรับปรุงพัฒนางาน
9. ให้นักเรียนทำแบบฝึกหัดในหนังสือฝึกชุดปฏิบัติจริง สุขศึกษา ม.6

สื่อการเรียนรู้
หนังสือแบบฝึกชุดปฏิบัติจริง สุขศึกษา ม.6

การวัดและประเมินผลการเรียนรู้
1. วัดและประเมินผลด้านองค์ความรู้ ในหนังสือ
2. วัดและประเมินผลด้านทักษะกระบวนการ ในการนำเสนอ การทำงานกลุ่ม
3. วัดและประเมินผลด้านเจตคติ ในหนังสือ
ภาพประกอบจากอินเทอร์เน็ต
..... แผนการสอน
สุขศึกษา ม.6






แผนการจัดการเรียนรู้
รายวิชาสุขศึกษา รหัสวิชา พ43102 กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาพลศึกษา
โรงเรียนบึงโขงหลงวิทยาคม ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2552
หน่วยการเรียนรู้ที่ 1 ระบบอวัยวะ
เรื่อง ระบบประสาทสืบพันธุ์ และต่อมไร้ท่อ เวลา 2 ชั่วโมงสาระการเรียนรู้ที่ 1 มาตรฐานการเรียนรู้ที่ 1.1 มาตรฐานการเรียนรู้ช่วงชั้น ข้อที่ 1, 2
วันที่ … เดือน พ.ศ. 2552 ผู้สอนนาย สมแพง อินอาน
……………………………………………………………………………………………………….
ผลการเรียนรู้ที่คาดหวัง
เข้าใจกระบวนการสร้างเสริม และดำรงประสิทธิภาพการทำงานของระบบประสาทสืบพันธุ์และระบบต่อมไร้ท่อ

จุดประสงค์การเรียนรู้
1. อธิบายการทำงานของระบบประสาท สืบพันธุ์และต่อไร้ท่อได้
2. อธิบายวิธีดำรงประสิทธิภาพการทำงานของระบบประสาท สืบพันธุ์และต่อมไร้ท่อได้
3. ตระหนักและเห็นความสำคัญในการดูแลระบบประสาท สืบพันธุ์และต่อมไร้ท่อ
4. ดูแลสุขภาพของระบบประสาท สืบพันธุ์และต่อมไร้ท่อได้อย่างถูกต้อง

สาระการเรียนรู้
1. ระบบประสาท
ส่วนประกอบ
การทำงานของระบบประสาท
การดำรงประสิทธิภาพการทำงานของระบบประสาท
2. ระบบสืบพันธุ์
- ระบบอวัยวะสืบพันธุ์ของเพศหญิง
- อวัยวะสืบพันธุ์ภายนอก
- อวัยวะสืบพันธุ์ภายใน
- สุขปฏิบัติเกี่ยวกับอวัยวะเพศหญิง
- ระบบอวัยวะสืบพันธุ์ของเพศชาย
- อวัยวะสืบพันธุ์ของเพศชาย
- สุขปฏิบัติเกี่ยวกับอวัยวะเพศชาย
การดำรงประสิทธิภาพการทำงานของระบบสืบพันธุ์
3. ระบบต่อไร้ท่อ
ต่อมไร้ท่อ
ความผิดปกติของต่อมไร้ท่อ
การดำรงประสิทธิภาพการทำงานของต่อมไร้ท่อ
การจัดกิจกรรมการเรียนรู้
ชั่วโมงที่ 1
1. นักเรียนแบ่งกลุ่ม 6 กลุ่มๆละเท่าๆกัน ให้แต่ละกลุ่มศึกษาการทำงานของระบบอวัยวะ ดังนี้
กลุ่มที่ 1 และ 2 ศึกษาระบบประสาท
กลุ่มที่ 3 และ 4 ศึกษาระบบสืบพันธุ์
กลุ่มที่ 5 และ 6 ศึกษาระบบต่อไร้ท่อ
2. ให้นักเรียนทำแบบฝึกหัดในหนังสือแบบฝึกชุดปฏิบัติจริง
3. ให้แต่ละกลุ่มจัดทำโครงงานตามกิจกรรมที่ โดยให้นักเรียนประชุมวางแผนการทำงาน นำเสนอข้อมูลในการวางแผนหน้าชั้นกลุ่มละ 5 นาที
4. นักเรียนและครูช่วยกันสรุปการทำงาน
ชั่วโมงที่ 2
5. นักเรียนกลุ่มที่ 1, 3, 5 ออกมานำเสนอข้อมูลหน้าชั้นเกี่ยวกับเรื่องที่ตนเองรับผิดชอบ กลุ่มละ 5 นาที
6. นักเรียนช่วยกันวิจารณ์ดารนำเสนอข้อมูลของเพื่อน เพื่อการปรับปรุงการทำงานในครั้งต่อไป
8. นักเรียนกลุ่มที่ 2, 4, 6 ออกมานำเสนอข้อมูลหน้าชั้นเกี่ยวกับเรื่องที่ตนเองรับผิดชอบ กลุ่มละ 10 นาที
9. นักเรียนช่วยกันวิจารณ์ดารนำเสนอข้อมูลของเพื่อน เพื่อการปรับปรุงการทำงานในครั้งต่อไป
10. นักเรียนและครูช่วยกันสรุปเพิ่มเติม
สื่อการเรียนรู้
หนังสือแบบฝึกชุดปฏิบัติจริง สุขศึกษา ม.6
การวัดและประเมินผลการเรียนรู้
1. วัดและประเมินผลด้านองค์ความรู้ ในหนังสือหน้า 14
2. วัดและประเมินผลด้านทักษะกระบวนการในการจัดทำโครงงาน
3. วัดและประเมินผลด้านเจตคติ
แผนการจัดการเรียนรู้
รายวิชาสุขศึกษา รหัสวิชา พ43102 กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาพลศึกษา
โรงเรียนบึงโขงหลงวิทยาคม ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2551
หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 สุขภาพครอบครัว
เรื่อง เพศศึกษา เวลา 2 ชั่วโมงสาระการเรียนรู้ที่ 2 มาตรฐานการเรียนรู้ที่ 2.1 มาตรฐานการเรียนรู้ช่วงชั้นข้อที่1, 2, 3, 4, 5
วันที่ … เดือน พ.ศ. 2550 ผู้สอน ธรรมรักษ์ พวงมาลัย
……………………………………………………………………………………………………….
ผลการเรียนรู้ที่คาดหวัง
1. รู้และเข้าใจปัจจัยเสี่ยงของสังคมที่มีต่อการมีเพศ สัมพันธุ์
2. เห็นความสำคัญของการวางแผนชีวิต และการสร้างครอบครัว
3. ตระหนักถึงความสำคัญของการมีเพศสัมพันธุ์ที่ปลอดภัยและปฏิบัติตนได้อย่างเหมาะสม
จุดประสงค์การเรียนรู้
1. วิเคราะห์ปัจจัยเสี่ยงของสังคมที่มีต่อการมีเพศสัมพันธุ์ได้
2. อธิบายความสำคัญของการวางแผนชีวิต และการสร้างครอบครัวได้
3. วางแผนชีวิตของตนเองได้อย่างถูกต้อง เหมาะสม
4. อธิบายความสำคัญของการมีเพศสัมพันธุ์ที่ปลอดภัยได้
5. อธิบายวิธีการคุมกำเนิดได้
6. ปฏิบัติตนได้อย่างเหมาะสมในเรื่องเพศตามวัฒนธรรมไทย
สาระการเรียนรู้
1. ปัจจัยเสี่ยงของสังคมที่มีต่อการมีเพศสัมพันธุ์
2. การวางแผนชีวิตและการสร้างครอบครัว
3. การเลือกคู่ครอง
4. การเตรียมความพร้อมก่อนการสมรส
5. การวางแผนครอบครัว
6. วิธีคุมกำเนิด
7. การมีเพศสัมพันธุ์ที่ปลอดภัย
ระบบประสาท
ประกอบด้วย1. สมอง2. ไขสันหลัง3. เส้นประสาท
ทำาหน้
าที
่ รวมกันในการรัความรู้สึกของอวัยวะตาง และตอบสนอง ต
อสิ่งแวดล้อม
เชน ความร้สึกเย็น ร้
อน อ
อน แข็ง สบาย เป นต้
ควบคุมการทำางานของรางกาย ตลอดจนความร้สึก
นึกคิด อารมณ์ ความทรงจำาตาง ๆ ระบบประสาทแบงออกเป3 สวน คือ1.สวนกลาง2.สวนปลาย3.อั
ตโนมัติ
สมอง
แบงเป2 ชั
น
1.
นนอก เนื
อสีเทา2.ชั
นใน เนื
อสีขาว
สมองแบงเป3 สวนคือ
1.1สมองส่ วนหน
ประกอบด้วย
1. ซร บร ัม
ความจำา ความฉลาดไหวพริบ| มองเห็นได้ยินได้กลิ่นรั
บรส(พดกล้ามเนื
อ)
2.ทาลามัส ศนย์รับและถายทอดความร้สึกไปยังเซรีบรัม | (รับความร้สึกเจ็บปวด ควบคุมสติ )
3.ไฮโปทาลามัส ควบคุมอุณหภมิรางกายการเต้นหัวใจความดันเลือดความหิวการนอนหลับ
(ควบคุมระบบ การหลั
่งฮอร์โมนต่อมไรูท่อ การหลั
่งนำ
ายอยกระเพาะอาหาร สมดุลนำ
ารางกาย
ประสาทอัตโนมัติ
) และ ก า แสดงอ ก ทา อารมณ์ก ับความรู้สึก ต 
าง ๆ
1.2สมองส่ วนกลาง
หน้
าที
เกี
่ยวกับการเคลื
่อนของลกตาและมานตา(การได้ยิน)
1.3สมองส่ วนทูา ยประกอบด้วย
1.เซรี
เบลลั
ระบบกล้ามเนื
อให้สั
มพันธ์กันและควบคุมการทรงตัวของรางกาย
2.พอนส์
การเคี
ยวอาหาร หลั
่งนำ
าลาย การหายใจ การฟัง กล้ามเนื
อใบหน้
(ก้
านสมองเชื
่อม เปนที
่อยของประสาทคที
5, 6 ,7 ,8
สมองกับไขสันหลัง)
3.เมดัลา
ควบคุมระบบประสาทอัตโนมัติ เช
การหายใจ การไหลเวียนเลือด
ออบลองกาตา
การเต้นของหัวใจ การไอ การจาม การกลืน
ไขสัหลั
ควบคุมการตอบสนองสิ่งเร้
ากะทันหัน โดยไมรอคำาสั
่งจากสมอง(รี
เฟล็กซ์)
ระบบประสาทส่นปลาย
ประกอบด้วย
1.เส้นประสาทสมอง มี 12 ค ทำาหน้
าทีรับความร้สึกบ้าง เคลื
่อนไหวบ้าง หรือทั
งค
2.เส้นประสาทไขสันหลัง มี 31 ค ทำาหน้
าที
่รับความร้สึกและเคลื
่อนไหวทุกเส้น
ระบบประสาทอัโนมั
อยนอกเหนืออำานาจจิตใจ ทำาหน้
าที
่ควบคุมอวัยวะตาง ที
่ทำางานได้ด้วยตัวเอง
เชน การเต้นของหัวใจการเคลื
่อนไหวของอวัยวะภายใน เป นต้น แบงออกเป2 สวนคือ
1.ระบบประสา ทซิ
มพาเทติ
ทำาให้รางกายเตรียพร้อมเผชิญภาวะอันตรายหรือฉุกเฉิน
เชน ไฟไหม้
หรือประสบอุบัติเหตุ
ร่างกายจะตื
นตัเพื
่อเตรียมพร้อมจะส้หรือหนีจากสถานการณ์
เหลา
นั
น คื
อชีพจรเต้นเร็วกวาปกติความดันเลือดเพิ่มขึน หัวใจเต้นเร็วต่อมหมวกไตจะหลั
งฮอร์โมน
อะดรีนาลิน
เพื
่อ เพิ่
มพลังงานพิเศษให้กับรางกาย เมื
่อร
างกายพ้นจากการเผชิญภาวะฉุกเฉินไปแล้ว การทำางานของ
ระบบประสาทซิ
มพาเทติกจะสินสุดลงและระบบประสาทพาราซิมพาติกจะชวยให้ราง กายกลับคืนส
ภาวะปกติ
2.ระบบประสาทพาราซิมพาเทติก ควบคุ ม การสะสม พลังงาน การทำ างานข อ งอ วัยวะภายใน หลอ ด
เลือด และตอมตาง ให้ทำาอย
ในสภาพการทำางานปกติ
ระบบสื
บพัธ์
การเพิ่มจำานวนสิ่งมีชีวิตให้
มากขึ
นตามธรรมชาติและเป นการทดแทนสิ่งมีชีวิตรุนเกาที
่ตายไป
เพศชาย ตัวอสุจิ สร้างเมื
่ออายุ12-13ปี ออกมาทางองคชาต(ลึงค์) ไหลผ
านทอปัสสาวะ รวมกับนำ
า
อสุจิ
(การผลิต)ล กอัณฑะ >ท อสร้
างเชื
ออสุจิ> หลอดเก็บตัวอสุจิ> ทอนำาตัวอสุจิ> ถุงเก็บนำ
าอสุจิ
ถุงเก็บนำ
าอสุจิ
,กระเพาะปัสสาวะ >ทอปัสสาวะ , ห ล ั
งน
าอสจิครั
งละ3-5ซี
ซี, ตัอสจิ300-500ลูาน
ตั
เพศหญิง เซลล์ไข สุกครั
งแรกเมื
่ออายุ11-12ปี เดือนละ1 ใบ(28วั) สลับกันระหวางข้างซ้
ายกับ
ขวา
(ไมได้ผสม)เซลไข สุ >ร ังไ ข  > (การตกไข
)ท อนำ ารังไข (ปี กมดลก) >ฝั งต ัว ที
่ผนังมดลก
*ไขจะฝ ฮอร์โมนโพรเจสเทอโรนจะลดลง >เยื
่อบุผนังมดลกสลายตัว+ เลื
อด> ประจำาเดือน(เมนส์
,
ระด)
(ผสม)เซลไข สุ >ร ังไข  > (ผสมพันธ์ุแล้ว)ท อนำ ารังไข (ปี กมดลก) >มดล >ไซโกต >ทารก
*ไม
มีประจำาเดือน(เมนส์
,ร ะด )และจะเริ
มตกไข
ใหม
หลังจากคลอดบุตรแล้ว
*อา ย45-50 จะเริ่มหมดประจำาเดือน เรียกวา วัยหมดประจำาเดือน (วัยทอง)
การปฏิสนธิคื
ตัวอสุจิเอาสวนหัวเจาะเข้าไปในเซลล์ไข สวนหางจะหลุดออก เหยื
่อหุ้มเซลล์ไขจะแข็ง
ขึน

วันอังคารที่ 24 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

                       สำนวนอังกฤษกินใจ
                                 ขอขอบคุณ 
http://www.oknation.net/blog/my-mint/2009/04/03/entry-3



"The secret of success in life is to be ready for your opportunity when it comes."
ความลับของความสำเร็จคือเตรียมตัวให้พร้อมอยู่เสมอสำหรับโอกาสที่มาถึง
"You get the best out of others when you give the best of yourself."
"คุณจะได้รับสิ่งที่ดีที่สุดของคนอื่น เมื่อคุณได้ให้สิ่งที่ดีที่สุดของคุณไป"

"If you always do what interests you, then at least one person is pleased."
ถ้าคุณลงมือทำในสิ่งที่คุณสนใจอยู่เสมอ อย่างน้อยจะมีคนคนหนึ่งที่พอใจ
"Only two things are infinite, the universe and human stupidity,
and I'm not sure about the former."

มีเพียงสองสิ่งเท่านั้นที่หาที่สิ้นสุดไม่ได้ สิ่งหนึ่งคือจักรวาล และอีกสิ่งคือความโง่เขลาของมนุษย์ ทว่าฉันไม่แน่ใจว่าจักรวาลจะเป็นเช่นนั้น
"Life remains the same until the pain of remaining the same
becomes greater than the pain of change."

ชีวิตจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงจนกระทั่งความเจ็บปวดจากความนิ่งเฉย จะมากกว่าความเจ็บปวดจากการเปลี่ยนแปลง
"The determined man finds the way, the other finds an excuse or alibi."

ผู้ที่แน่วแน่และมุ่งมั่นจะหาหนทางแก้ปัญหา ในขณะที่คนอื่นจะหาหนทางแก้ตัว

"The only thing in life achieved without effort is failure."
มีเพียงสิ่งเดียวในชีวิตที่จะสามารถพิชิตได้โดยไม่ต้องใช้ความพยายามมากมายคือความล้มเหลว
"Some dream of worthy accomplishments, while others stay awake and do them."

บางคนฝันที่จะประสบความสำเร็จอย่างสวยหรู ในขณะที่บางคนกำลังลงมือกระทำ

"No bird soars too high if he soars with his own wings."
ไม่มีนกตัวใดบินสูงเกินไปถ้ามันบินด้วยปีกของมันเอง
"Obstacles are those frightful things you see
when you take your eyes off your goals."

อุปสรรคคือสิ่งที่น่าตกใจก็ต่อเมื่อคุณไม่ได้มองไปที่จุดหมายปลายทาง
"Advice is like snow; The softer it falls the longer it dwells upon,
and the deeper it sinks into, the mind."

คำแนะนำเหมือนหิมะที่โปรยปรายลงมา ยิ่งบางเบาเพียงใดก็ยิ่งแตะเพียงเปลือกนอก และยิ่งหนักหนาเท่าใดก็ยิ่งลึกถึงความรู้สึกเท่านั้น

"There is nothing either good or bad but thinking makes it so."
ไม่มีสิ่งใดๆในโลกที่ดีหรือเลว มีแต่ความคิดของเราเท่านั้นที่ทำให้เกิดความดีและความเลว
"Great minds discuss ideas; Average minds discuss events;
Small minds discuss people."

จิตใจที่ยิ่งใหญ่วิพากย์วิจารณ์ความคิด จิตใจสามัญวิพากวิจารณ์เหตุการณ์ แต่จิตใจที่ต่ำต้อยนั้นวิจารณ์เพียงผู้คน
"Life is a big canvas and you should throw all the paint you can on it."
ชีวิตเหมือนภาพเขียนขนาดใหญ่และคุณควรจะใช้สีทั้งหมดที่คุณมีสร้างสรรค์มันขึ้นมา

"Forgive your enemies, but never forget their names."
จงยกโทษให้แก่ศัตรูของคุณ แต่อย่าลืมชื่อของพวกเขาเป็นอันขาด

"The only man who never makes mistakes is the man who never does anything."
คนที่ไม่เคยทำผิดคือคนที่ไม่ได้ทำอะไรเลย
"If you want to increase your success rate,double your failure Rate."
ถ้าคุณต้องการประสบความสำเร็จมากขึ้นหนึ่งเท่าตัว จงเพิ่มความล้มเหลวเป็นสองเท่าตัว
"Even a Step back can be fatal."
แม้แต่การก้าวถอยหลังก็อาจถึงแก่ชีวิตได้

"Imagination is more important than knowledge."
จินตนาการสำคัญกว่าความรู้ที่มี
"The reward of a good thing well done is to have it done."
รางวัลของสิ่งที่เรียกว่ายอดเยี่ยมคือการได้สร้างมันขึ้นมา
"You see things and you say, 'Why?'!But I dream things that never were;
and I say, 'Why not?"

คุณเห็นบางสิ่งบางอย่าง คุณจะพูดว่า"ทำไม" ในขณะที่ฉันได้เห็นความฝันของฉันซึ่งไม่เคยเป็นไปได้ ฉันพูดว่า "ทำไมถึงไม่มีสิ่งนั้นล่ะ"

"Do what you can, with what you have, where you are."
ทำในสิ่งที่คุณสามารถจะทำได้ พร้อมกับสิ่งที่คุณมีและที่ที่คุณอยู่

"Freedom is nothing else but a chance to do better."
อิสรภาพ ไม่ใช่อะไรอย่างอื่นเลย หากแต่คือโอกาสที่จะทำสิ่งต่างๆให้ดีขึ้น
"The future belongs to those who believe in the beauty of their dreams."
อนาคตเป็นของคนที่เชื่อในความฝันของตัวเองเท่านั้น
"God gives every bird it's food, But He does not throw it into it's nest".
พระเจ้ามอบอาหารให้แก่นกทุกตัว แต่ไม่เคยโยนอาหารให้ถึงรังของนกเหล่านั้น
"When life is giving you a hard time, try to endure and live through it.
You must never run away from a problem.
Convince yourself that you will survive and get to the other side."

เมื่อคุณเห็นการมีชีวิตเป็นสิ่งที่หนักหนาสาหัส ลองพยายามอดกลั้นและต่อสู้กับมัน จงอย่าวิ่งหนีต่อปัญหาใดๆที่คุณเผชิญอยู่ และเชื่อใจในตัวเองว่าสองมือของคุณสามารถทำให้คุณฝ่าฟันช่วงวิกฤตและผ่านมันไปได้
"There is Nothing so Sweet as Love's Young Dreams!"

ไม่มีสิ่งใดจะหอมหวานเท่ากับความฝันในวัยเยาว์
"First say to yourself what you would be, and then do what you have to do."
สิ่งแรกที่ต้องทำคือตั้งใจกับตัวเอง และลงมือทำ
"A person who lives right, and is right, has more power in their silence
than another has by words."

บุคคลที่มีชีวิตอยู่อย่างถูกต้องและเหมาะสมแม้อยู่ในความเงียบก็มีอำนาจมากกว่าผู้อื่น
Do not judge, time will tell.
อย่าเพิ่งตัดสิน เวลาจะเป็นเครื่องพิสูจน์

Today is the best day to start something new.
วันนี้เป็นวันที่ดีที่สุดที่จะเริ่มต้นทำสิ่งใหม่ๆ

If you want to be successful, follow your dream.
ถ้าคุณต้องการประสบความสำเร็จ ฝันให้ไกล ไปให้ถึง

This is life; it has ups and downs.
นี่แหละชีวิต มีขึ้นและมีลง

The world is drama; everything is acting.
โลกนี้คือละคร ทุกสิ่งทุกอย่างคือการแสดง

Life is journey; the more you travel, the more you learn and gain experience.
ชีวิตคือการเดินทาง ยิ่งเดินทางมาก ก็ยิ่งเรียนรู้และได้รับประสบการณ์มาก
Everyone has both strengths and weaknesses; you donot have to be perfect all the time.

คนทุกคนมีทั้งจุดแข็งและจุดอ่อน จึงไม่ต้องทำตัวให้สมบูรณ์แบบตลอดเวลา

If we believe that anyone can change, we must give them the opportunity to achieve a better life.
ถ้าเราเชื่อว่าคนทุกคนสามารถเปลี่ยนแปลงได้ เราต้องให้โอกาสกับทุกคนที่จะไปสู่ชีวิตที่ดีกว่า

Do not waste your time worrying about the past and the future.
อย่าเสียเวลากังวลกับอดีตที่ผ่านไปแล้ว และอนาคตที่ยังมาไม่ถึง

No failure, no success.
ไม่ล้มเหลวก็ไม่ประสบความสำเร็จ

Things do not happen. Things are made to happen. 
สรรพสิ่งไม่ปรากฎ  เพราะว่าไม่ถูกทำให้ปรากฏ

The only source of knowledge is experience.
ความรู้  มีอยู่ทุกหนทุกแห่ง เท่าที่ประสบการณ์จะเกิด

Don’t build a new ship with old wood 
 “อย่าสร้างเรือใหม่ด้วยไม้เก่า”